ความหมายของความรักในพระคัมภีร์
“ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาบ ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอและทนต่อทุกอย่าง” 1 โครินธ์ 13:4-7
พิธีแต่งงาน
พิธีมงคลสมรส หรือพิธีแต่งงาน สำหรับคริสเตียนคือพิธีที่พระเจ้าตั้งขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิต และเป็นโอกาสในการแสดงความยินดีกับชายและหญิงที่ปรารถนาในการใช้ชีวิตร่วมกัน พิธีแต่งงาน จึงเป็นเสมือนการเริ่มต้นของชีวิตคู่ ให้ทะนุถนอมกันและกันด้วยความรัก ให้ยกย่องนับถือกันอย่างสมควร และช่วยจุนเจือกันและกันทั้งในยามที่มั่นคงและยามที่มีความอ่อนแอของชีวิต และอยู่กินด้วยกันด้วยความสัตย์ซื่อ ในพระคัมภีร์ได้เขียนว่า “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงละบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยาและเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน”
ความหมายต่างๆ ในพิธีแต่งงาน
การจุดเทียน
แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นชีวิตคู่บ่าวสาวและทำให้ระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่างแห่งชีวิต ให้พระองค์ทรงเป็นผู้นำของครอบครัวใหม่นี้
การปฏิญาณและการมอบแหวนแต่งงานให้แก่กัน
คือการที่บ่าวสาวแสดงความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ด้วยการให้คำสัญญาต่อกันและกันต่อหน้าผู้ประกอบพิธี และต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติที่มาเป็นสักขีพยาน และจำเพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า ว่าทั้งสองจะรักกันและกัน เป็นคู่ครองด้วยความเต็มใจ
การจุดเทียนสมรส
เทียนของคู่บ่าวสาว 2 เล่ม หมายถึง ทั้งคู่ต่างคนต่างเดินทางมาพบเจอกัน เมื่อตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน โดยการเข้าสู่พิธีแต่งงาน และสร้างครอบครัวด้วยกัน จาก 2 คน จะกลายเป็น 1 เดียว คือเทียนสมรส และดับเทียนของตนเอง จากนี้จะกลายเป็นเรา เป็นครอบครัวเดียวกัน