วันที่ 20 คุณเชื่อว่าพระเจ้ามีฤทธานุภาพสูงสุดไหม
เดินไปกับปัญญาจารย์
วันที่ 20 คุณเชื่อว่าพระเจ้ามีฤทธานุภาพสูงสุดไหม
ข้อพระธรรม: ปัญญาจารย์ 3:1-8 “1มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์ 2มีวาระเกิด และวาระตาย มี วาระปลูก และวาระถอนสิ่งที่ปลูกทิ้ง 3มีวาระฆ่า และวาระรักษาให้หาย มีวาระรื้อทลายลง และวาระก่อสร้างขึ้น 4มีวาระร้องไห้ และวาระหัวเราะ มีวาระไว้ทุกข์ และวาระเต้นรำ 5มีวาระโยนหินทิ้ง และวาระเก็บรวบรวมหิน มีวาระสวมกอด และวาระงดเว้นการสวมกอด 6มีวาระแสวงหา และวาระทำหาย วาระเก็บรักษาไว้ และวาระโยนทิ้งไป 7มีวาระฉีกขาด และวาระเย็บ วาระนิ่งเงียบ และวาระพูด 8มีวาระรัก และวาระเกลียด วาระสงคราม และวาระสันติ”
ข้อท่องจำ: 1 เธสโลนิกา 5:18 “จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย”
อีกหนึ่งมุมมองในพระธรรมปญจ. 3.1-8 คือการมองถึงความยิ่งใหญ่ อธิปไตย และอำนาจสูงสุดของพระเจ้า ในขณะที่ซาโลมอนได้นำเสนอรายการถึง 28 อย่างที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้ ใน 28 อย่างนี้ สามารถจับคู่ได้เป็น 14 คู่ตรงข้ามกัน และทั้ง 14 คู่นี้ ซาโลมอนใช้อธิบายละครชีวิตที่แท้จริงของมนุษย์ ที่จะต้องพานพบ คือ ชีวิตและความตาย ความชื่นชมยินดีกับความเศร้าโศก ความสำเร็จและความล้มเหลว บวกและลบ ดีกับชั่ว และอื่นๆ ที่มนุษย์พึงจะพบได้ในชีวิตอย่างครอบคลุมและลึกซึ้ง สิ่งเหล่านี้มันมีจังหวะเวลา และวัตถุประสงค์ในตัวของมันเองทั้งสิ้น
พระคัมภีร์ตอนนี้เป็นหนึ่งในตอนที่มีผู้ใช้อ้างอิงมากที่สุด และเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก แม้กระทั่งคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า ก็จะสามารถเข้าใจความจริงที่สังเกตได้ง่ายๆ แต่ทว่าลึกซึ้งยิ่งนัก ใครก็ตามที่มีประสบการณ์ผ่านชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการเปลี่ยนแปลงภายใต้มิติของเวลา ประสบการณ์ในชีวิตของเขาเหล่านั้นสะท้อนถึงสัจธรรมที่ปรากฏอยู่ในพระวจนะตอนนี้ทั้งสิ้น ขณะที่เราเดินทางชีวิตของเราแต่ละคน สิ่งเหล่านี้รอเราอยู่เบื้องหน้า แต่มีบางสิ่งสำหรับบางคน ชีวิตของเขามีเวลาไม่พอที่จะรับประสบการณ์และเห็นสัจธรรมของมัน สิ่งเดียวที่เราทำได้ก็คือ การเชื่อว่าซาโลมอนได้ประสบการณ์เหล่านี้ จากการสังเกต สังเคราะห์ และท่านสรุปได้ว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงจังหวะไหนของชีวิต วาระขาขึ้นหรือขาลง พระองค์ทราบว่าพระเจ้าทรงครอบครองอยู่ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พระองค์ควบคุมจักรวาลธรรมชาติทุกอย่าง และความเป็นไปของชีวิตทุกชีวิต ในขณะที่เราก็ยังไม่สามารถควบคุมความเป็นไปของชีวิตของเราเองได้ เรายังไม่สามารถเอาชนะความตายได้ เราไม่อาจห้ามดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกได้ เราไม่สามารถต่อสู้และเอาชนะธรรมชาติได้ แต่ในทางกลับกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดและดับ มีอยู่และสูญสิ้นไปภายใต้แผนการอันเลิศประเสริฐและสมบูรณ์แบบขององค์พระผู้เป็นเจ้า
หลายๆ ครั้งทีเดียวที่เราไม่อาจเข้าใจพระเจ้า และตอบปัญหาการดำเนินไปของสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นความลึกลับของพระเจ้า แต่เราสามารถไว้วางใจ และมีหลักประกันของพระเจ้าได้ว่า พระองค์ทรงควบคุมและครอบครองอยู่ ทุกสิ่งภายใต้ดวงอาทิตย์เกิดขึ้นเมื่อถึงวาระของมัน และมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทั้งสิ้น และเมื่อมันดับไป ก็มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เช่นกัน
เมื่อเราเข้าใจวัตถุประสงค์เช่นนี้ คำถามก็คือ เราเห็นพระหัตถ์อันทรงฤทธานุภาพ ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดในชีวิตเราหรือไม่ ลองพยายามใช้เหตุการณ์ทั้ง 28 อย่างนี้ เช็คดูว่าเราเห็นบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาแล้วนั้น เป็นไปอย่างมีวัตถุประสงค์แล้วหรือไม่ เมื่อเราเห็นการเกิดของชีวิต วาระแห่งการรักษาให้หาย วาระแห่งการหัวเราะ เต้นรำ และสวมกอด เราคงจะมีความสุข แต่กับวาระตรงกันข้ามนั้นเล่า สงคราม ความตาย ความเกลียดชัง เรายังสามารถเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าที่ทรงดูแลและควบคุมสิ่งเหล่านี้อยู่หรือไม่
สิ่งที่น่าคิดก็คือ คำถามที่ว่า เมื่อเราโกรธ เกลียดชีวิต เรากำลังโกรธใคร คำตอบก็คือ เรากำลังโกรธพระเจ้า และต่อว่าพระองค์ใช่หรือไม่